การตั้งค่าการสำรองข้อมูล
การตั้งค่าการสำรองข้อมูล เป็นการตั้งค่าให้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ ทำการสำรองข้อมูลส่วนที่เราเลือกโดยอัตโนมัติ เป็นการเข้ารหัสข้อมูลด้วย จะไม่สามารถเปิดอ่านไฟล์ได้ด้วยวิธีเปิดอ่านทั่วไป ซึ่งมีข้อดีคือ ไวรัสก็จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลในส่วนนี้ด้วย
มีวิธีและขั้นตอนดังต่อไปนี้
(ในกรณีตัวอย่าง เราจะใช้ ไดร์ฟ E:\ เป็นที่เก็บไฟล์ Backup)
ในตัวอย่างนี้ เราจะทำการ Backup ข้อมูลตำแหน่ง C:\users\user\Desktop, Documents, Download, Mudic, Pictures, Video และ ไดร์ฟ D:\ ทั้งลูก
ในส่วนของ Include a system image of drive, System Reversed, Windows (C:) จะเลือกหรือไม่ก็ได้ ถ้าเลือก จะสำรองไฟล์ระบบของวินโดว์ด้วย เอาไว้กู้คืนวินโดว์เวลาวินโดว์เสีย แต่ก็จะใช้เนื้อที่สำรองข้อมูลมากด้วยเช่นกัน
สถานะการสำรองข้อมูล จะแสดงความคืบหน้าของการประมวลข้อมูล
สถานะดิสก์ไดร์ฟ ที่เก็บไฟล์ Backup
สถานะรายละเอียดการสำรองข้อมูล และปฏิทินการสำรองในครั้งถัดไป
เราสามารถคลิ๊กดูรายละเอียดที่กำลังสำรอง เราก็จะพบว่าระบบกำลังเก็บไฟล์ข้อมูลของเราอยู่ โดยคลิ๊กปุ่ม View Details
หลังจากที่ระบบทำการสำรองข้อมูลเสร็จแล้ว ในครั้งถัดไป หากเราต้องการสำรองด้วยตัวเองก็สามารถกดปุ่ม Back up Now ได้เลย ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าการทำในครั้งแรก
สามารถปกป้องข้อมูลจากโปรแกรมอันตราย มัลแวร์ ไวรัสเรียกค่าไถ่ หรือ Ransomware ได้ และสามารถกู้คืนไฟล์ได้จากไฟล์ที่เราสร้าง Backup ไว้
ในกรณีที่เผลอลบข้อมูลสามารถกู้คืนไฟล์ได้เช่นกัน ป้องการการลบไฟล์จากระบบแชร์ข้อมูลได้
ในกรณีที่ใช้งานไฟล์อยู่ แล้วเกิดไฟฟ้าดับ ไฟล์ข้อมูลได้รับความเสียหาย สามารถทำการกู้คืนไฟล์ได้
ปกป้องระบบปฏิบัติการวินโดว์จากความเสียหายของไฟล์ได้ หรือวินโดว์ล่ม เรายังสามารถทำการ System Restored ได้
ข้อเสียในการสำรองข้อมูล จะใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม 2-3 เท่า ของเนื้อที่ข้อมูลปกติ เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงของระบบไฟล์
ในขณะที่ระบบกำลังทำการ Back up เครื่องอาจจะหน่วงการทำงานขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่ยังสามารถใช้งานได้
เพิ่มภาระหน้าที่งานให้กับผู้ใช้ แต่ถ้าเทียบกับความสำคัญที่ได้รับ ก็ถือว่าคุ้มค่า
สัญญา ซาสุทธศรี เรียบเรียง